Thai subtitles for clip: File:Zika virus video osmosis.webm

From Wikimedia Commons, the free media repository
Jump to navigation Jump to search
1
00:00:01,839 --> 00:00:09,219
มีไวรัสมากมายที่สามารถก่อให้เกิดโรคในมนุษย์
ทว่าสองสถาณการณ์ที่ทำให้ไวรัสนั้นอันตราย

2
00:00:09,219 --> 00:00:14,610
ได้แก่ เมื่อไวรัสสามารถแพร่กระจาย
อย่างรวดเร็ว และเมื่อมันสามารถสร้างความเสียหายอย่างสาหัส 

3
00:00:14,610 --> 00:00:18,280
ไวรัสซิกามีศักยภาพที่จะทำทั้งสองอย่างนี้
จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม

4
00:00:18,280 --> 00:00:23,020
ดังนั้นเราจึงควรรู้เกี่ยวกับไวรัสซิก้าและ
โรคที่เกิดจาก

5
00:00:23,020 --> 00:00:24,930
ไวรัสนี้

6
00:00:24,930 --> 00:00:30,490
ไวรัสซิกาเป็นอาร์โบไวรัส หมายความว่าถูก
ถ่ายทอดผ่านแมลง หรือในที่นี้คือยุง 

7
00:00:30,490 --> 00:00:35,000
ดังนั้นจึงเป็นไวรัสที่มียุงเป็นพาหะ
แต่ไม่ได้แปลว่าไวรัส

8
00:00:35,000 --> 00:00:39,760
นั้น “เกิด (born)” ในตัวยุง แต่ไวรัสนั้นถูก
“นำพา (borne)” ซึ่งมีตัว ‘e’ โดยยุง

9
00:00:39,760 --> 00:00:45,110
แปลว่า ขนส่ง บางครั้งพวกเรา
เรียกสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ว่า “พาหะทำโรค”

10
00:00:45,110 --> 00:00:49,629
สิ่งที่พาหะเหล่านี้ทำมีเพียงขนส่งไวรัสเท่านั้น ดังนั้น
ไวรัสซิก้าจึงเหมือนกับไวรัสที่มียุงเป็นพาหะอื่นๆ

11
00:00:49,629 --> 00:00:55,510
เช่น ไข้เลือดออก ไข้เหลือง ไข้สมองอักเสบ
และไข้ไนล์ตะวันตก

12
00:00:55,510 --> 00:01:00,219
ยุงทำหน้าที่เป็นพาหะนำโรคซึ่งนำพาไวรัส
จากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่ง ไวรัสเหล่านี้

13
00:01:00,219 --> 00:01:03,500
ล้วนอยู่ในวงศ์เฟลวิไวรัส

14
00:01:03,500 --> 00:01:10,020
เพื่อดูแลลูกในท้อง ยุงตัวเมียต้องหา
เลือดจากโฮสท์มาเป็นอาหาร 

15
00:01:10,020 --> 00:01:13,969
ยุงหาเลือดโดยใช้สารเคมีซึ่งพวกเราและ
สิ่งมีชีวิตอื่นๆปล่อยออกมา

16
00:01:13,969 --> 00:01:20,039
เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ แอมโมเนีย กรดแลคติก
และออคเทนอล ดังนั้นเมือยุงที่

17
00:01:20,039 --> 00:01:25,189
บังเอิญมีไวรัสเจออาหาร (เลือด)
และลงมือรับประทาน มนุษย์จะติด

18
00:01:25,189 --> 00:01:31,219
เชื้อไวรัส และไวรัสจะเริ่มเพิ่มจำนวนหรือเจริญพันธุ์
ภายในตัวมนุษย์ ขณะที่ไวรัสจากวงศ์เฟลวิไวรัสอื่นๆ

19
00:01:31,219 --> 00:01:35,569
ไม่สามารถเพิ่มจำนวนมากพอในตัวมนุษย์ที่จะ
สามารถแพร่เชื้อให้ยุงตัวอื่น

20
00:01:35,569 --> 00:01:42,889
ทำให้คนเป็นโฮสท์ที่ไม่สามารถแพร่ต่อได้
ไวรัสซิก้า และไข้เลือดออก

21
00:01:42,889 --> 00:01:47,859
รวมไปถึงไข้เหลืองนั้นต่างออกไป
ไวรัสเหล่านี้มีการพัฒนาและสามารถเพิ่มจำนวน

22
00:01:47,859 --> 00:01:53,079
ในตัวมนุษย์ให้มากพอที่จะแพร่เชื้อสู่
ยุงตัวอื่นที่ไม่เคยได้รับไวรัสมาก่อน ซึ่งยุงตัวนั้น

23
00:01:53,079 --> 00:01:58,569
จะสามารถแพร่เชื้อให้กับคนอื่นได้อีก ระยะแพร่เชื้อนี้
อยู่ในช่วงอาทิตย์แรกที่ติดเชื้อซึ่ง

24
00:01:58,569 --> 00:02:02,609
ไวรัสซิกานั้นอยู่ในกระแสเลือด
ดังนั้น หากมนุษย์ซึ่งป่วยเป็นโรคนี้สามารถส่งต่อไวรัส

25
00:02:02,609 --> 00:02:06,819
กลับสู่ยุงได้นั้น คุณคงจินตนาการเองได้ว่า
พื้นที่ซึ่งมียุงเยอะ ๆ นั้น

26
00:02:06,819 --> 00:02:10,679
คงเป็นแหล่งกระจายของไวรัส
อย่างรวดเร็ว ใช่ไหมหละ?

27
00:02:10,679 --> 00:02:16,129
ตอนนี้เมื่อไวรัสซิกาแพร่กระจายผ่านยุงลาย (Aedes)
เหล่าเจ้าตัวน้อยที่หิวกระหาย

28
00:02:16,129 --> 00:02:22,159
เลือดนี้สามารถกัดตอนกลางคืน ทว่าจะออกหากิน
มากที่สุดในตอนกลางวัน ยุงลายเหล่านี้ยังเป็น

29
00:02:22,159 --> 00:02:29,500
ประเภทเดียวกับที่เป็นพาหะของไวรัสชิคุนกุนยา
และไข้เลือดออกอีกด้วย เมื่อ Aedes aegypti หรือ Aedes

30
00:02:29,500 --> 00:02:35,150
albopictus ทั้งสองสปีชีส์ของยุงลาย
ได้เกาะบนผิวหนังของคุณและยื่นจมูก


31
00:02:35,150 --> 00:02:39,680
ยาวๆของมันเข้าไป มันเจาะผ่านผิวหนังชั้นนอกสุด
ซึ่งประกอบไปด้วย

32
00:02:39,680 --> 00:02:45,489
เซลล์ผิวหนังซะส่วนใหญ่ เซลล์ผิวหนัง
ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรค

33
00:02:45,489 --> 00:02:49,980
และปกติแล้วจะทำหน้าที่ได้ดี
จมูกของยุงนั้นยังทะลุต่อไปยัง

34
00:02:49,980 --> 00:02:54,400
ชั้นหนังแท้ เพราะว่าผิวหนังชั้นนอกสุดนั้นได้รับออกซิเจน
จากอากาศและไม่มีเลือดมาเลี้ยง

35
00:02:54,400 --> 00:02:58,819
ในขณะที่ชั้นหนังแท้นั้นมี และนี่
เป็นสิ่งที่ยุงต้องการ ใช่ไหมหละ

36
00:02:58,819 --> 00:03:04,249
เลือด ในเมื่อจมูกของยุงนั้นทะลุผ่านทั้ง
ผิวหนังชั้นนอกสุดและชั้นหนังแท้

37
00:03:04,249 --> 00:03:10,200
เซลล์ที่อยู่ในทั้งสองชั้นนี้มีโอกาสจะติดเชื้อ
ไวรัสซิกา ดังนั้นนอกจากเซลล์ผิวหนังแล้ว

38
00:03:10,200 --> 00:03:15,140
ไฟโบรบลาสและเซลล์เดนไดรท์ยัง
ถูกพบว่าสามารถติดเชื้อจากไวรัสซิกาได้เช่นกัน


39
00:03:15,140 --> 00:03:19,170
แปลว่าเซลล์เหล่านี้มีตัวรับ หรือ
แหล่งสำหรับยึดติด ที่บอกไวรัสว่า

40
00:03:19,170 --> 00:03:22,239
เอาสิ เข้ามาเลย

41
00:03:22,239 --> 00:03:26,340
แม้ว่าตอนนี้ พวกเรายังไม่รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับ
ไวรัสซิกา ทว่าพวกเรารู้ว่า

42
00:03:26,340 --> 00:03:32,040
เมื่อมันเข้าสู่เซลล์ มันฉีดอาร์เอ็นเอไวรัสสายเดี่ยวแบบบวก
แบบบวกแปลว่าอาร์เอ็นเอชิ้นนี้
Positive means that this

43
00:03:32,040 --> 00:03:36,989
คล้ายกับ เอ็มอาร์เอ็นเอของพวกเรามาก
และพร้อมที่จะถูกแปลเป็น

44
00:03:36,989 --> 00:03:43,969
โปรตีน กลุ่มยีนของไวรัสถูกแปลโดย
ระบบปฏิบัติงานของเซลล์ของพวกเราเองและเพิ่มจำนวนกลายเป็นไวรัส

45
00:03:43,969 --> 00:03:49,069
ในที่สุด โรงงานเปลี่ยนเซลล์เป็นไวรัสเหล่านั้นจะ
ตายลง และปล่อย

46
00:03:49,069 --> 00:03:52,930
ไวรัสออกมาเพื่อทำให้เซลอื่นๆติดเชื้อ

47
00:03:52,930 --> 00:03:56,870
แม้ไวรัสเหล่านี้จะดูร้ายกาจ ระบบภูมิคุ้มกันของพวกเรา
สามารถต่อสู้กับไวรัสซิกาได้อย่างดี

48
00:03:56,870 --> 00:04:02,279
ทำให้เพียงแค่ 1 ใน 5 คนเท่านั้นที่จะป่วยจากการติดเชื้อนี้
และส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการป่วยที่คนรอบข้างอาจไม่ทันสังเกต

49
00:04:02,279 --> 00:04:07,879
ด้วยซ้ำ อาการทั่วไปเมื่อคนไข้ติดเชื้อไวรัสได้แก่
ไข้อ่อนๆและผื้นตามผิวหนัง
50
00:04:07,879 --> 00:04:12,749
แต่บางคนอาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อ
และปวดข้อ ปวดหัว และเยื่อตาอักเสบ

51
00:04:12,749 --> 00:04:18,940
หรือ ตาแดง ระยะฟักตัว หรือ ระยะเวลา
ตั้งแต่การติดเชื้อจนเริ่มแสดงอาการนั้นยังไม่มีใครรู้แน่ชัด

52
00:04:18,940 --> 00:04:23,180
แต่อยู่ระหว่างไม่กี่วันจนถึงหนึ่งอาทิตย์

53
00:04:23,180 --> 00:04:27,080
การรักษาส่วนใหญ่แล้วจะรักษา
ตามอาการ เช่น การพักผ่อนให้มาก


54
00:04:27,080 --> 00:04:31,870
ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และ
การรับประทานยาเช่นอะเซตามิโนเฟนเพื่อช่วย

55
00:04:31,870 --> 00:04:34,550
แก้ปวดและลดไข้

56
00:04:34,550 --> 00:04:38,270
โอเค ตอนนี้พวกเราน่าจะเข้าใจแล้วว่าทำไมไวรัสนี้ถึง
แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งสำคัญในที่ซึ่งมียุงชุกชุม

57
00:04:38,270 --> 00:04:43,580
แล้วสำหรับส่วนที่สร้างความเสียหายอย่างสาหัสหละ

58
00:04:43,580 --> 00:04:49,090
แม้โรคนี้จะมีอาการไม่รุนแรงเล็กน้อยในผู้ใหญ่
เรื่องมันมีมากกว่านั้น ในเดือนตุลาคมปีพ.ศ. 2558

59
00:04:49,090 --> 00:04:53,750
พื้นที่ในประเทศบราซิลซึ่งมีไวรัสซิกา 
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสังเกตว่า

60
00:04:53,750 --> 00:04:58,710
จำนวนเด็กที่มีภาวะหัวเล็กเกินมีจำนวนมากขึ้น
อย่างชัดเจน เด็กที่มีภาวะนี้นั้น

61
00:04:58,710 --> 00:05:04,090
เกิดมากับศีรษะที่เล็กกว่าปกติ 
ทำให้สมองนั้นเล็กตามไปด้วย นี่จึงเป็น

62
00:05:04,090 --> 00:05:09,270
แนวโน้มที่จะทำให้เกิดปัญหาทางสมองและ
การพัฒนาทางความคิด อาการชัก รวมไปถึง

63
00:05:09,270 --> 00:05:14,020
ปัญหาทางการมองเห็นหรือได้ยิน ได้มีการสังเกตว่า
จำนวนเด็กที่มีภาวะหัวเล็กเกินนั้นมีจำนวนมากขึ้น

64
00:05:14,020 --> 00:05:20,590
กว่า 20 เท่า ในเขตเมืองของประเทศบราซิลซึ่งมีการระบาด
ของไวรัสซิกา

65
00:05:20,590 --> 00:05:25,560
เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีพ.ศ. 2558
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรปกล่าว่าเป็นไปได้ที่

66
00:05:25,560 --> 00:05:31,060
ไวรัสซิกาจะเป็นสาเหตุของภาวะหัวเล็กเกิน
ในทารกในครรภ์หรือทารกเกิดใหม่

67
00:05:31,060 --> 00:05:35,080
และไวรัสซิกายังสามารถส่งต่อจากแม่
สู่ลูกในครรภ์ หรือเมื่อให้กำเนิด

68
00:05:35,080 --> 00:05:40,620
แม้ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน
หรืออย่างไร

69
00:05:40,620 --> 00:05:42,620
ไวรัสซิกานั้นถูกเชื่อมโยงกับภาวะหัวเล็กเกิน

70
00:05:42,620 --> 00:05:49,620
นอกจากจะแพร่โดยยุงกัดแล้ว
ในบางกรณีจากแม่สู่ลูก

71
00:05:49,620 --> 00:05:54,560
ไวรัสซิกาได้รับรายงานว่าสามารถแพร่ผ่านทาง
การถ่ายเลือดและ

72
00:05:54,560 --> 00:05:55,479
เพศสัมพันธุ์

73
00:05:55,479 --> 00:06:00,940
ปัจจุบัน ยังไม่มีวัคซีนสำหรับไวรัสซิกา
ดังนั้นทุกคนควรระวัง

74
00:06:00,940 --> 00:06:06,370
เมื่อต้องเดินทางไปพื้นที่ซึ่งมีการระบาด
พยายามไม่ให้ยุงกัด และควร


75
00:06:06,370 --> 00:06:10,960
ทายากันยุงตลอดวัน หรือใส่เสื้อแขนยาว
และกางเกงขายาว โดยเฉพาะในเวลากลางวัน

76
00:06:10,960 --> 00:06:15,580
เพราะเป็นเวลาที่ยุงลายชุกที่สุด
หากติดเชื้อ การหลีดเลี่ยงการถูกยุงกัด


77
00:06:15,580 --> 00:06:20,650
เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้ไวรัสซิกา
แพร่สู่คนอื่น โดยเฉพาะในอาทิตย์แรกที่มี

78
00:06:20,650 --> 00:06:25,819
อาการ ขณะนี้องค์การอนามัยโลกแนะนำ
ให้หญิงที่ตั้งครรภ์ปรึกษาแพทย์

79
00:06:25,819 --> 00:06:33,629
เพื่อขอคำปรึกษาและคำแนะนำ